ครีมกันเเดด

ครีมกันเเดด

  • UVA  กับ UVB คืออะไร
    รังสีUV มีสองชนิด คือ UVA กับ UVB
     UVA
    ทำลายคอลลาเจนทำให้ผิวเสื่อม เหี่ยวย่น 
     UVB
    ทำให้ผิวไหม้แดด ผิวดำและทำให้เกิดมะเร็งของผิวหนัง

  • PA+ / PA++ / PA+++ คืออะไร
    บอกระดับการป้องกัน  UVA ซึ่งมีอยู่ 3 ระดับ 
    PA+
    สามารถกันยูวีเอได้บางส่วน ส่วนมากจะกันได้ช่วง 320-340 นาโนมิเตอร์ เท่านั้น
    PA++  สามารถกันยูวีเอได้เกือบครบทั้ง 400 นาโนมิเตอร์ 
    PA+++ 
    สามารถกันยูวีเอได้ครบถึง 400 นาโนมิเตอร์
    ซึ่งจริงๆแล้ว PA+ ก็เพียงพอในการทำกิจกรรมเกือบทุกประเภท แต่ถ้าต้องอยู่กลางแดดนานให้เลือก PA++ หรือสูงกว่า

  • SPF  คืออะไร
    เป็น ค่าบอกว่าจะอยู่กลางแดดนานแค่ไหนโดยไม่ทำให้ผิวไหม้หรือแสบร้อน แต่ค่าเอสพีเอฟเป็นเพียงการบอกค่าการปกป้องผิวจาก UVB ไม่เกี่ยวกับ UVA

  • เลือกครีมกันแดดอย่างไร
    เลือก ดูที่กันน้ำหรือไม่เพราะกรณีป้องกันแสงแดดขณะว่ายน้ำ ควรเลือกชนิดที่กันน้ำและเลือกดูที่ฉลากว่าทนเหงื่อหรือไม่ เพราะกรณีป้องกันแสงแดดเมื่อเล่นกีฬาเหงื่อจะออกมากควรเลือกชนิดที่ทนเหงื่อ เราจึงควรเลือกให้เข้ากับกิจกรรม เพราะครีมกันแดดบางยี่ห้ออาจจะหนียวเหนอะหนะเพราะต้องกันน้ำ จึงเหมาะกับกิจกรรมว่ายน้ำมากกว่า หากมาใช้ทาทั่วๆไปก็อาจจะรู้สึกรำคาญไม่สบายตัว
·          วิธีเลือกซื้อครีมกันแดด
 1.ดูค่า SPF 

          ก่อนอื่นเลยคุณสาว ๆ ต้องดูค่า SPF ก่อนเลยค่ะว่า ครีมกันแดดยี่ห้อนั้นสามารถป้องกัน UVB ได้กี่เท่า ซึ่งครีมกันแดดที่ดีควรจะป้องกันได้ทั้ง
 UVA และ UVB 

          สำหรับ UVA นั้น เป็นรังสีที่ทำให้เซลล์ผิวเสียหายจนเป็นรอยเหี่ยวย่นได้ แต่ยังไม่มีค่ามาตรฐานกำหนด ปัจจุบันจึงนิยมใช้ PA และเครื่องหมาย + เป็นตัวบอก โดยควรเลือกครีมกันแดดที่ระบุว่า PA++ ขึ้นไป
 
          ส่วน UVB นั้น เป็นครีมกันแดดที่ป้องกันอาการแพ้ แดง แสบ และไหม้ของผิวหนัง โดยปกติคนไทยมีผิวคล้ำ ซึ่งเม็ดสีสามารถป้องกัน UVB ได้บ้างแล้ว ดังนั้นควรเลือกครีมกันแดดที่มี SPF มากกว่า 15 ก็เพียงพอแล้วล่ะค่ะ

 2.ดูส่วนผสมอื่น ๆ เพิ่มเติม

          สาว ๆ หลายคนมักจะเลือกใช้ครีมกันแดด SPF สูง ๆ เช่น SPF 50, SPF60 แต่รู้หรือไม่คะว่า บางครั้งสารกันแดดที่อยู่ในครีมกันแดด ก็อาจไม่ได้มีประสิทธิภาพดีเท่าที่ควรนะคะ ส่วนผสมในตัวครีมก็สำคัญไม่น้อยเช่นกันค่ะ สาว ๆ ควรเลือกครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของ ซิงก์อ๊อกไซด์, ไททาเนียมไดออกไซด์, อโวเบนโซน หรือเม็กโซริล จะดีที่สุด

 3.เลือกให้เหมาะกับการใช้งาน 

          สาว ๆ ออฟฟิศ ไม่จำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงเกินไปหรอกนะคะ เลือกเพียง SPF 15 ก็เพียงพอแล้ว ส่วนคนที่ชอบเล่นกีฬา หรือต้องอยู่กลางแจ้งนาน ๆ ทำให้มีเหงื่อออกได้ง่าย ควรเลือกครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป และกันน้ำได้ (
Water Proof หรือ Water Resistance) จะช่วยปกป้องได้ดีกว่า ส่วนสาว ๆ ที่จะลงว่ายน้ำ หรือไปชายทะเล ควรใช้ครีมกันแดดค่า SPF 30 ขึ้นไปเช่นกัน และทาซ้ำทุก 1 ชั่วโมง ที่สำคัญ ควรทาครีมก่อนลงน้ำครึ่งชั่วโมงจึงจะได้ผลค่ะ

 4.ราคาหรือยี่ห้อไม่สำคัญ 

          ขอเพียงมีคุณสมบัติครบแล้วก็ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ระคายเคืองก็เพียงพอแล้วค่ะ
 

 5.สีผิวของแต่ละคน

          สาว ๆ ที่มีผิวขาว ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงกว่าปกติเล็กน้อย เพราะผิวขาวจะไวต่อการรับแสงแดดมากกว่าคนผิวคล้ำนั่นเอง โดยควรเลือกดังนี้

         
  ผิวขาวแบบชาวยุโรป เป็นผิวบางมาก เกิดผิวไหม้ง่ายมากหลังสัมผัสกับแสงแดด ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ (SPF 45-60)

         
  ผิวขาวอมชมพูแบบคนเอเชีย เป็นผิวที่บอบบางมาก เกิดผิวไหม้ได้ไว ทำให้ผิวเป็นสีแทนได้ ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ค่อนข้างสูง (SPF 30-45)

         
  ผิวขาวเหลืองในคนเอเชีย ผิวชนิดนี้บอบบางแต่ยังมีเมลานินอยู่บ้าง จึงสามารถทนต่อแสงแดดได้ดีกว่าผิว 2 ชนิดแรก ควรเลือกครีมกันแดดชนิดที่มีค่า SPF ปานกลาง (SPF30)

         
  ผิวคล้ำ เป็นมีเมลานินสูง ไม่เกิดการไหม้ ไม่เกิดสีแทน จึงควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มี SPF ต่ำ (SPF 15) ก็เพียงพอแล้ว


วิธีทดสอบการแพ้ครีมกันแดด

          หากต้องการทดสอบว่า เราแพ้ครีมกันแดดยี่ห้อไหน ให้ลองทาครีมกันแดดบริเวณใต้ท้องแขนทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วสังเกตว่ามีอาการบวม แดงหรือไม่ ถ้าปรากฏอาการดังกล่าวแสดงว่าแพ้สารเคมีชนิดหนึ่ง อย่างไรก็ตามคนบางประเภท (delay
 sensitivity) อาจจะใช้เวลานานกว่าจะปรากฏอาการแพ้ จึงควรรอดูอาการถึง 24 ชั่วโมง หรือ 72 ชั่วโมง จึงจะสรุปได้ว่าไม่มีอาการแพ้จริง ๆ 
   
·        

วิธีใช้ครีมกันแดดที่ถูกต้อง

         
 เมื่อคุณสาว ๆ เลือกซื้อครีมกันแดดได้ตรงใจแล้ว เราก็มาดูกันต่อเลยว่า ควรจะใช้ครีมกันแดดอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด ซึ่งสิ่งที่ควรคำนึงถึงในการใช้ครีมกันแดด ก็คือ

 1.จำนวนครั้งที่ทาต่อวัน 

          สาว ๆ ต้องคำนึงถึงเรื่องระยะเวลาในการป้องกันแดดของครีมกันแดดด้วย ซึ่งโดยทั่วไปอยู่ที่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น และประสิทธิภาพก็จะค่อย ๆ ลดลง ทำให้ผิวคุณก็จะได้รับ UVA และ UVB เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ควรทาครีมกันแดดให้ได้ทุก ๆ 2 ชั่วโมงนะคะ ยิ่งหากคุณไปเที่ยวทะเล หรือออกแดดนาน ๆ ควรต้องให้ความสำคัญกับการทาครีมกันแดดให้มากเลยค่ะ แต่ถ้าคุณสาว ๆ ทำงานเพียงแค่อยู่ในห้องแอร์ หรือออฟฟิศ ทาเพียงวันละครั้งก็เพียงพอแล้วค่ะ

 2.ปริมาณของครีมกันแดดที่ควรใช้

          ด้วยราคาของครีมกันแดดที่ค่อนข้างสูง ทำให้สาว ๆ หลายคนใช้ในปริมาณที่น้อยนิด ไม่มากพอต่อการกันแดดในแต่ละวัน แต่สาว ๆ รู้ไหมคะว่า ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับผิวหน้าและคอ คือปริมาณ 1 ช้อนชาเลยนะคะ ส่วนครีมกันแดดที่ใช้กับแขนและขา ปริมาณที่เพียงพออยู่ที่ 1 ช้อนโต๊ะค่ะ
 

 3.อย่าลืมป้องกันตัวเองด้วย 

          เนื่องจากครีมกันแดดไม่ได้ป้องกันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงควรเลี่ยงแดดควบคู่ไปด้วย หรือหาอุปกรณ์ในการป้องกันแดดมาเป็นตัวช่วย เช่น หมวก แว่นตา ร่ม เสื้อแขนยาว เป็นต้น

 4.วิธีทาครีมกันแดด

           วิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้องควรทาบาง ๆ และเกลี่ยให้ทั่ว ๆ ไม่ควรทาย้อนขึ้นย้อนลง เพราะจะทำให้ครีม หลุดลอกได้ง่าย และภายหลังจากออกแดดแล้ว ควรอาบน้ำ ล้างหน้าให้สะอาด และทามอยส์เจอร์ และครีมบำรุงผิวทันที
อ้างอิงค์

http://women.kapook.com/view25907.html

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ข้อสอบดาราศาสตร์

อาณาจักรสุโขทัย

เจาะลึกโลกดาวเทียม